Charlotte Figi เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 13 ปีเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว วงการกัญชาทางการแพทย์ทั่วโลกต่างแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเธอ ตั้งแต่อายุสามเดือน ชาร์ลอตต์ป่วยด้วยโรคดราเว็ต (Dravet syndrome) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคลมชักที่มีอาการรุนแรงที่สุด สามารถทำให้เกิดปัญหาด้านการพัฒนาการและมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตก่อนกำหนด ตอนอายุ 5ขวบ ชาร์ลอตต์ชักมากกว่า 300 ครั้งต่ออาทิตย์หรือประมาณหนึ่งครั้งทุก ๆ 30 นาที ชาร์ลอตต์ต้องใช้รถเข็นและใช้ท่อให้อาหาร และอีกหลายครั้งที่หัวใจหยุดเต้นจนต้องปั๊มหัวใจ แม่ของ ชาร์ลอตต์จึงพยายามหาวิธีอื่นที่จะสามารถ รักษาอาการชักนี้ได้จนได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับการใช้ CBD ในผู้ป่วยลมชัก และได้ไปติดต่อผู้ปลูกกัญชงที่รับปากจะสกัด น้ำมัน CBD เพื่อใช้ในการรักษาชาร์ลอตต์ แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น หลังจากใช้ CBD อาการชักของ ชาร์ลอตต์หายไปกว่าหนึ่งอาทิตย์ และการพัฒนาการเริ่มกลับมาอีกครั้ง อาการชักลดลงเหลือเพียงหนึ่งครั้งต่อเดือน เรื่องราวการรักษาโรคลมชักด้วย CBD จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและผู้ป่วยลมชักเริ่มหันมาใช้ CBD ในการรักษามากขึ้น และทำให้วงการแพทย์เริ่มเปิดรับการรักษาด้วยวิธีใหม่นี้
เรื่องราวของ ชาร์ลอตต์กับการต่อสู้โรคร้ายของเธอสร้างแรงบันดาลใจและความหวัง ให้กับผู้ป่วย และยังเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Charlotte’s web แบรนด์ CBD ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก แบรนด์นี้ถูกก่อตั้งโดย Joel Stanley ซึ่งเป็นผู้ปลูกกัญชงที่ แม่ของชาร์ลอตต์ขอให้ปลูกเพื่อนำมารักษาอาการป่วยของชาร์ลอตต์นั่นเอง
ชาร์ลอตต์ใช้ CBD ในการรักษากว่า 9 ปี และในปี 2018 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติยา Epidiolex ซึ่งเป็นยา จากสารสกัด CBD บริสุทธิ์ เพื่อรักษาอาการชักที่เกิดจากโรคดราเว็ตสำหรับเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ถือเป็นยาตัวแรกที่สกัดจากกัญชาเพื่อนำมาใช้ทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA
Source: The New York Times/ FDA
